วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เรียนทำวิดิโอ

                                                          Project Base Learning ที่บางรัก

                           เราตัดสินใจจะเริ่มทำ Project Base Learning เเล้ว หลังจากที่พวกเราผ่านการฝึกฝนทักษะด้านต่างๆมาเเล้วระยะหนึ่ง(21st centery skills) ถึงเวลาลงมือทำงานจริง ที่บางรักเป็นที่ที่่กำลังจะพัฒนาชุมชน

                           การพัฒนาชุมชนคือขบวนการที่กำหนดขึ้นเองเพื่อส่งเสริมเเละปรับปรุงภาวะต่างๆทางเศษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของท้องถิ่นต่างๆให้ดีขึ้นซึ่งเป็นการทำร่วมกันของผู้คนในท้องถิ่นนั้นเอง ทำให้เจริญขึ้น ปรับปรุงกลุ่มคนให้ดีขึ้น การพัฒนาความคิด

                           เขตบางรักเป็น 1 ใน 50 เขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร อยู่ในเขตลุมพินี ซึ่งถือเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจ การค้า และการทูต เขตบางรักอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
อำเภอบางรักถูกก่อตั้งขึ้นในรัชกาลที่ ๕ ในวันที่ 5/6/2450 ต่อมาในพ.ศ.2515 ได้มีประกาศจัดตั้งกรุงเทพมหานครขึ้นเเทนที่นครหลวงกรุงเทพธนบุรี ซึ่งนครหลวงกรุงเทพธนบุรีเกิดจากการรวมกันของ จังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรี อำเภอบางรักจึงได้เปลี่ยนเป็นเขตบางรัก

เขตบางรักมีพื้นที่ 5.536 และจำนวนประชากรอยู่ที่ประมาณ 46,898 คน(มกราคม2559)เขตบางรักถูกแบ่งออกเป็น 5 แขวงด้วยกัน นั่นคือ..
มหาพฤฒาราม
สีลม
สุริยวงศ์
บางรัก
สี่พระยา


                                                   เรียนการเขียนสตอรี่บอร์ดและตัดต่อ

25/6/59
                            วันนี้เรามาเรียนเรื่องของการเขียนสตอรี่บอร์ดและการตัดต่อกับครูกานต์ เพื่อเสริมทักษะในด้านนี้

หลักการคิด script
1.หาแนวคิด
2.มีข้อมูล
3.วิดิโอนี้สำหรับใครดู

เพื่อให้พวกเราเห็นภาพ ครูจึงชวนเราลองสมมุติการทำวิดิโอเรื่องของบางรัก

2.มีข้อมูล
ข้อมูลที่เราควรมีคือดังนี้..

1.อธิบายว่าบางรักคืออะไร(สำหรับคนที่ไม่รู้จักบางรักมาก่อน)
2.ภาพรวมของบางรัก
3.ปัญหาที่มีอยู่
4.ทางแก้
5.ความเเตกต่างระหว่างอดีตจนถึงปัจจุบัน
6.ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนาชุมชน

คำถามที่เราควรจะถามผู้คนในละเเวกนั้น..
1.รู้สึกอย่างไรบ้างกับการพัฒนาชุมชน
2.คิดว่าควรจะพัฒนาชุมชนในด้านใดบ้าง
3.มีความสุขหรือไม่
4.คิดว่าผลกระทบต่อมาคืออะไร

3.สำหรับใคร
เราช่วยกันคิดว่าวิดิโอนี้ น่าจะถูกสร้างมาเพื่อให้ใครดูเป็นหลัก
1.นักศึกษา
2.คนรุ่นใหม่
ช่วงอายุราวๆ 25-40 ปี

                            ดังนั้นวิดิโอนี้ เราจะต้องออกแบบมาให้ตอบสนองต่อคนดู ต้องเป็นวิดิโอที่ทำให้คนอยากดู ครูจึงให้เราคิดกันว่าถ้าเป็นเราดูวิดิโอแบบใด เราถึงจะชอบและสนใจอยากจะดูต่อจนจบ ซึ่งเราทุกคนตอบมาเหมือนกันหมด นั่นคือ วิดิโอนี้ต้องสนุกไม่น่าเบื่อ ครูจึงถามต่อว่าเวลาเราดูหนังที่สนุก หนังจะต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง..

แอ็คชั่น
ตลก/เสียดสี
สวยงาม/มีหวังหวัง
อบอุ่นหัวใจ

ครูจึงให้คิดกันต่อว่าเราจะเอาเนื้อหาในวิดิโอมาตอบโจทย์ความสนุกอย่างไรได้บ้าง..

แอ็คชั่น                                            อาจจะเป็นคนเถียงกัน
ตลก/เสียดสี                                     อาจจะเป็นภาพบรรยากาศและคำบรรยายที่ขัดแย้งกัน
สวยงาม/มีหวัง                                 มีสิ่งใหม่ ได้สิ่งที่หวังเอาไว้
อบอุ่นหัวใจ                                      ภาพแม่-ลูก/เด็กวิ่งเล่นกัน

                            ครูบอกว่าในหลักการทำวิดิโอนั้น จะใช้หลักการจัดเรื่องราวนั้นๆให้อยู่ในหมวดหมู่อริสัจหรือจตุราริยสัจ นั่นคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

                            อริยสัจ เป็นหลักคำสอนหนึ่งของพระพุธเจ้า แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นอริยสัจ มีอยู่ ๔ ประการคือ..

1.ทุกข์                  คือสภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สภาพที่บีบคั้น ได้เเก่ ชาติ(การเกิด)ชรา(การแก่ การเก่า)มรณะ(การตาย การสลายไป) พูดโดยง่าย ทุกข์คืออุปาทานขันธ์หรือขันธ์ 5

2.สมุทัย               คือสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ได้แก่ตัณหาทั้ง 3 คือ กามตัณหา (ความทะยานอยากในกาม,ความอยากในกามารมณ์)ภวตัณหา(ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่,ความอยาก)และวิภวตัณหา(ความไม่อยากเป็นโน่นเป็นนี่)

3.นิโรธ                 คือความดับทุกข์ ได้แก่ดับสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์(ดับตัณหาทั้งสาม)

4.มรรค                 คือแนวปฏิบัติที่นำไปสู่การดับทุกข์ มีอยู่แปดประการ คือ..
4.1 สัมมาทิฏฐฺิ(ความเห็นชอบ)
4.2 สัมมาสังกัปปะ(ความดำริชอบ)
4.3 สัมมาวาจา(เจรจาชอบ)
4.4สัมมากัมมันตะ(ทำการงานชอบ)
4.5 สัมมาอาชีวะ(เลี้ยงชีพชอบ)
4.6 สัมมาวายามะ(พยายามชอบ)
4.7 สัมมาสติ(ระลึกชอบ)
4.8 สัมมาสมาธิ(ตั้งใจชอบ)

 ในวิดิโอของเรา เราสามารถยึดหลักการนี้มาใช้ได้ จะเรียงอย่างไรก่อนก็ได้

                            ครูสอนเรื่องของมุมภาพ โดยใช้หนังสือการ์ตูนช่องๆเป็นตัวช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้น มุมแต่ละมุมจะมีความหมายไม่เหมือนกัน เช่น มุมกว้าง คือมุมที่เป็นภาพใหญ่ภาพเดียว เพื่อเล่าเรื่องราว ให้เห็นบรรยากาศโดยรอบของเรื่องราวที่ดำเนินอยู่ มุมสูงหรือมุมด้านบน จะมีความหมายให้อารมณ์ถึงความสงสาร ต้อยต่ำ โดดเดี่ยว อ้างว้าง เหมือนกับเวลาที่พระเจ้ามองลงมาจากด้านบน จากนั้นครูก็นำอุปกรณ์สำหรับถ่ายทำวิดิโอออกมาให้พวกเราดู อุปกรณ์ทั้งหมายของครูมีดังนี้..

ด้านภาพ
1.กล้อง
2.เลนส์และเลนส์เสริม
3.แบตเตอร์รีและแบตเตอร์รีสำรองสัก 1-4 อัน
4.เอสดีการ์ด
5.ฟิลเตอร์ ทำหน้าที่ตัดแสง
6.เลนส์มาโคร สำหรับถ่ายอะไรที่มีขนาดเล็กหรือละเอียด
7.ขาตั้งกล้อง

ด้านเสียง
1.ไมโครโฟน short gun สำหรับต่อกับกล้อง ถ้าใช้สำหรับเก็บเสียงหลายคน สามารถต่อสายได้
2.ไมค์สัมภาษณ์หรือไมค์เหน็บ

ด้านเเสง
1.ไฟ LED สำหรับช่วยให้ความสว่าง
2.ฟิลเตอร์สี เผื่ออยากเปลี่ยนเป็นสีต่างๆให้เข้ากับบรรยากาศ

                             การทำวิดิโอขึ้นมา จะมีคนทำงานในตำแหน่งต่างๆ ได้แก่ ตากล้องหรือช่างภาพ ผู้ตัดต่อ ผู้เขียนสคริป และผู้สัมภาษณ์ เราต่างก็เลือกที่จะทำงานในงานที่ตัวเองถนัดที่สุด ฉันเองรับหน้าที่สัมภาษณ์ผู้คน









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น